Category: News

  • รู้จักสามเหลี่ยมพีระมิดทางการเงิน

    รู้จักสามเหลี่ยมพีระมิดทางการเงิน

    ในโลกยุค VUCA (Volatility = ความผันผวน, Uncertainty = ความไม่แน่นอน, Complexity = ความซับซ้อน, Ambiguity = ความคลุมเครือ) ที่สถานการณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างในปัจจุบันนี้ ทำให้เราต้องวางแผนชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการวางแผนการเงินก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น เงินเฟ้อ ค่าแรงต่ำ ค่าครองชีพสูง สังคมผู้สูงอายุ วิกฤตการเงิน และเหตุการณ์ต่าง ๆ นั้น ทำให้เราเก็บเงินได้ยากขึ้นนั้นเอง

    ดังนั้นในโลกการเงิน เราจึงมีทฤษฎีที่ว่า พีระมิดการวางแผนการเงิน หรือ Financial Planning Pyramid ซึ่งเป็นหลักสากลในการวางแผนการเงินนั้นเอง

    พีระมิดทางการเงิน คืออะไร?

    พีระมิดการวางแผนการเงิน หรือ Financial Planning Pyramid หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า พีระมิดการเงินนั้น คือ แผนหรือโครงสร้างทางการเงินที่เรียงลำดับชั้นของความสำคัญก่อน-หลัง โดยจะค่อย ๆ วางรากฐานทางการเงินให้แข็งแกร่งดั่งพีระมิดอียิปต์ที่ตั้งตระหง่านกว่า 4,500 ปีมาแล้ว โดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้

    ส่วนที่ 1 การจัดการวางแผนใช้จ่ายและวางแผนหนี้สิน (Cash Flow Management)

    การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อทำให้เรารู้ว่า 1 เดือน เรามีรายรับจากทางใดบ้าง? และมีรายจ่ายไปทางช่องทางใดบ้าง? เพื่อนำไปใช้วางแผนสภาพคล่องทางการเงินต่อไป ซึ่งเราจะมีการวางแผนสภาพคล่องการเงินด้วยกัน 2 แบบใหญ่ ๆ คือ

    1. Active Cash Flow Planning คือ เพื่อวิเคราะห์ถึงความสำคัญของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และรู้ถึงสภาพคล่องการเงินของเราว่า ในอนาคตเรามีความต้องการใช้เงินจำนวนเท่าไหร่? ก่อนแล้วหาช่องทางการสร้างรายได้เพื่อให้เพียงพอต่อรายจ่ายต่อไป
    2. Passive Cash Flow Planning คือ นำรายได้จากช่องทางต่าง ๆ มารวมกัน แล้วแบ่งเงินออกเป็น 3 กองด้วยกัน เพื่อวางแผนสภาพคล่องทางการเงินต่อไป โดยใช้ส่วนต่าง ๆ กันไป บางคนอาจใช้สัดส่วน 40/30/30 หรือ 50/30/20 โดยจุดประสงค์ของแต่ละสัดส่วนมีดังต่อไปนี้
      • NEEDs คือ ค่าใช้จ่ายจำเป็น หรือค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ ค่าประกัน เป็นต้น
      • WANTs คือ ค่าใช้จ่ายเพื่อความสุขส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ ค่าสินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น
      • SAVINGs คือ เงินสำหรับการเก็บออมเพื่อนำไปลงทุน โดยเงินออมก้อนแรกควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน โดยเป็นเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น เงินบัญชีออมทรัพย์, กองทุนรวมตลาดเงิน, พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น เพื่อให้แปรรูปเป็นเงินสดได้เร็วที่สุด เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดขึ้น

    ส่วนที่ 2 การป้องกันความเสี่ยง (Protection)

    คือการถ่ายโอนความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับแผนการเงินของเราไปไว้ที่อื่น ด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีชื่อว่า “ประกัน” นั่นเอง

    โดยประกันจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

    • ประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance) คือ การคุ้มครองสินทรัพย์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิต เช่น ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันการโจรกรรม เป็นต้น
    • ประกันชีวิต (Life Insurance) คือ การคุ้มครองการเสียชีวิต ทุพพลภาพ ด้วยโรคหรืออุบัติเหตุ ซึ่งประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้
      1. แบบชั่วระยะเวลา (Term) คือ แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองระยะสั้น ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เบี้ยประกันถูก แต่เป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง ต้องเสียชีวิตเท่านั้น คนข้างหลังถึงจะได้รับเงินทุนประกัน ซึ่งเหมาะกับคนที่ชีวิตมีความเสี่ยงในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และต้องการเพิ่มความคุ้มครองชีวิตในระยะเวลานั้น
      2. แบบตลอดชีพ (Whole Life) คือ แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองระยะยาว 90 หรือ 99 ปี แต่จ่ายเบี้ยสั้น อยู่ครบสัญญาหรือเสียชีวิตก็จะได้รับเงินทุนประกัน เหมาะกับคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือคนที่ต้องการทำประกันสุขภาพก็สามารถซื้อประกันแบบนี้แล้ว เพิ่มค่ารักษาพยาบาล เข้าไปได้เลย
      3. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) คือ แบบประกันที่เน้นการออมเงินที่ได้รับความนิยม จะได้รับเงินก้อนเมื่อครบสัญญาหรือเสียชีวิต ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการการคุ้มครองพร้อมออมเงินแต่รับความเสี่ยงได้น้อย
      4. แบบบำนาญ (Annuity) คือ คือ แบบประกันที่จ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี หลังเกษียณจะได้รับเงินบำนาญคล้าย ๆ สวัสดิการข้าราชการ ซึ่งเหมาะกับการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ

    จากแบบประกันประเภทต่าง ๆ ต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างไป และมีอนุสัญญาที่เพิ่มความคุ้มครองในเรื่องการประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันการขาดรายได้ ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรศึกษาและเลือกให้ตรงกับโจทย์ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งบางคนอาจมองว่า ไม่ค่อยสำคัญ เนื่องจากคิดว่าตนเองนั้นยังมีสุขภาพที่ดีอยู่ และมองว่าเป็นภาระค่าใช้จ่าย แต่อย่างน้อย ๆ ประกันคือเครื่องมือที่ช่วยปกป้องความเสี่ยง และคุ้มครองเราจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของเราได้

    ส่วนที่ 3 การออมและการลงทุน (Saving & Investment)

    เมื่อส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 มั่นคงแล้ว เราก็นำเงินมาลงทุนต่อยอดโจทย์ และเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนกันต่อ โดยเราจะแบ่งเป้าหมายโดยใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัดได้ 3 ระยะเวลา ได้แก่

    • ระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) เช่น การเรียนต่อ ท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น เราก็ต้องลงทุนแบบระมัดระวัง เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง อย่างบัญชีเงินฝากประจำ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
    • ระยะกลาง (2-5 ปี) เช่น การแต่งงาน ซื้อบ้าน ซื้อรถ เริ่มธุรกิจส่วนตัวใหม่ เป็นต้น เราก็จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลาง อย่างกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมผสม
    • ระยะยาว (5 ปีขึ้นไป) เช่น การเกษียณอายุ การศึกษาบุตร เป็นต้น เราก็จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง ในรูปแบบของการสะสมทรัพย์ อย่างประกันบำนาญ, กองทุนรวม RMF, หุ้นพื้นฐานดีหรือหุ้นปันผล, กองทุนรวมหุ้น, อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ
    Blue Piggy Bank

    ส่วนที่ 4 การวางแผนการศึกษาของบุตร และการเกษียณ

    เมื่อเราดำเนินชีวิตมาระยะนึง เราสร้างครอบครัวมีบุตร ธิดา แล้ว การวางแผนการศึกษาของเขาเป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนเลย เพราะหากคุณเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาจะยังคงมีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อไปหรือไม่? หากไม่มี ชีวิตพวกเขาคงจะเดือดร้อนไม่น้อย ดังนั้นเราจึงมีเครื่องมือที่เรียกว่า “ประกันชีวิต” ที่จะใช้ประกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    การวางแผนเกษียณเพื่อเราจะยังคงมีสินทรัพย์เหลือใช้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตในช่วงสุดท้าย และเพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ดังนั้นการวางแผนประกันสุขภาพระยะยาว หรือ Long Term Health Care ก็มีความสำคัญที่จะทำให้คุณไม่มีภาระในช่วงเกษียณ เพราะเราจะวางแผนให้เงินทำงาน แล้วนำเงินที่ออกผลมาจ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้กับคุณ

    ส่วนที่ 5 การวางแผนมรดก (Deliver your legacy)

    เมื่อเราย่างเข้าสู่บั้นปลายชีวิต เราก็จะต้องมีการส่งมอบสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ให้แก่ลูก หลาน หรือที่เราเรียกว่า การจัดดการมรดก ต่อไป ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การทะยอยส่งมอบเป็นครั้ง ๆ ไป หรือ การทำพินัยกรรม ซึ่งวิธีเหล่านี้ล้วนมีเรื่องของภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเราในฐานะที่ปรึกษาการเงิน หรือนักวางแผนการเงิน ก็จะใช้เครื่องมือทางการเงินในการบริหารจัดการเงิน เพื่อบริหารจัดการภาษีมรดก เพื่อให้สินทรัพย์ที่เราสร้างขึ้นมายังคงอยู่กับเราต่อไป

    โดยสิ่งที่เป็นผลพลอยได้ระหว่างทางที่เราวางแผนการเงินคือ ผลประโยชน์ทางด้านภาษี หรือ การบริหารจัดการภาษี นั้นเอง

  • [บันทึกนักขี่] เล่นเตะกรวย กับ Slow Balance

    [บันทึกนักขี่] เล่นเตะกรวย กับ Slow Balance

    ถ้าหากเป็นการ Challenge เพื่อหวังผลฯ เช่นแข่งขันกันเล่นๆ นั่นหมายความว่าต้องการความแม่นและชัวร์มากขึ้น ในแต่ละกรวย

    หากเราเอาเท้าออกจากพื้นบอร์ดรถสกุ๊ตเตอร์หรือรถอะไรก็แล้วแต่ ยิ่งรถสกุ๊ตเตอร์ยิ่งต้องถ่างขากว้างออกเยอะ ก็เหมือนกับรถ GS ที่ต้องถ่างขาหนีหัวเครื่องบ๊อกเซอร์….. เมื่อเราต้องยกเท้าออกจากการวางที่พักเท้าหรือพื้นบอร์ดพร้อมกับการวาดเท้าออกไปเขี่ยกรวย มักจะเกิดอาการเสียบาลานซ์ไปบ้างเล็กน้อย บางคนเสียบาลานซ์ในจังหวะนี้เยอะเลยจนเซ ทำให้เกิดความไม่แม่นยำ ตามที่บอกว่าถ้าการทำเพื่อหวังผลลัพธ์ Challenge แล้วต้องการความแม่นนำ เราต้องเอาเท้าออกมารอซักระยะเวลาหนึ่งจนบาลานซ์นิ่ง เมื่อนิ่งแล้วเวลาเขียก็จะเสียบาลานซ์น้อยกว่าการทำทุกขั้นตอนพร้อมกันในเวลาเดียวกัน…….. มันเปรียบสเหมือนการแต่งตัวก่อนเข้าโค้ง / การมองโค้งไกล มองล่วงหน้า ประมาณนั้นครับ หรือเหมือนกับการขี่รถเอามือไปหยิบของ ถ้าเราปล่อยมือพร้อมกับรีบไปหยิบของเลย มันจะเซ แต่ถ้าเราปล่อยมือรอไว้แล้ว ก็จะหยิบง่าย (หลักการมันเหมือนกัน)

    อันนี้เป็นทริคอีกขั้นนึงแล้วครับ เอาไว้เล่นสนุกๆครับ 555

  • [บันทึกนักขี่] ขี่รถใหญ่ ทำไมเราถึงล้มง่ายจัง?

    [บันทึกนักขี่] ขี่รถใหญ่ ทำไมเราถึงล้มง่ายจัง?

    อันนี้ผมไปเจอบทความดี ๆ จากโพสต์ Facebook ของอาจารย์ จิตเกษม จัลวรรณา เลยเอามาแชร์กันก่อนที่บทความจะโดนทับถมไปตามกาลเวลาครับ

    ขี่ ร ถ ใ ห ญ่ _ ท ำ ไ ม เ ร า ถึ ง ล้ ม ง่ า ย จั ง

    * เพราะรถมันใหญ่ ❌

    * เพราะรถมันหนัก ❌

    จริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ….!

    * เพราะรถมันสูง ✔️

    ✔️ ใช่ครับ ✔️

    สาเหตุที่เราล้มกันบ่อย ๆ ง่าย ๆ โดยเฉพาะเวลาเลี้ยวหรือกลับรถ หรือเคลื่อนรถไปช้า ๆ ไม่ได้เกิดจากรถใหญ่หรือหนักแต่อย่างใด แต่มันคือความสูงของรถ และเบาะนั่งต่างหาก (หรือรถสูงปรกติ แต่คนตัวเล็กนั่นเอง) เนื่องจากความสูงของเบาะ ทำให้ฐานล่างของเรา(ขา) ค้ำยันพื้นได้ไม่มั่นคง หรือถ่างขาได้ไม่มากพอทำให้ไม่มีแรงในการค่ำยันรถนั่นเอง ฟังแล้วหลายคนอาจจะค้านว่ารถหนักน่าจะมีส่วนทำให้ล้มได้ง่ายมากกว่า(ไม่ใช่เลยครับ) งั้นเรามาฟังตรงนี้กัน

    เรามักจะเห็นรถอเมริกันคันใหญ่ ๆ หนัก ๆ อย่างเช่น Harley Davidson พวกตระกูล Road King / Electra Glide / Road Gide / Heritage / Fadboy หรือ Indian อะไรก็แล้วแต่ ที่มีน้ำหนัก 400 kg. ++ เขาล้มง่าย ๆ บ่อย ๆ กันแบบรถ BMW GS / T7 / Africa twin / Multi Enduro บ้างมั๊ย? ก็ไม่นะครับ ทั้ง ๆ ที่ H-D หนักกว่าเกือบ 2 เท่าในบางคันด้วยซ้ำ(ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ยังขี่ H-D ไม่ล้มได้ง่าย ๆ เหมือนผู้ชายขี่รถเหล่านั้นเลย)

    Honda Gold Wing หรือพวกรถ Grand Touring ต่างๆก็ตาม เข่น BMW K1600 GT / R1250 RT / Yamaha XJR1300 / Kawasaki GTR1400 พวกรถเหล่านี้หนักเฉียด ๆตัวเลข 300kg. ทั้งนั้น แม้แต่คนตัวเล็ก ๆ ขี่ ก็ยังล้มยาก เลย จริงไหม?

    กลับกัน มาดูรถเบา ๆ ที่ล้มกันง่าย ๆ บ้าง

    รถสูตรวิบาก เช่น KTM Husqvarna Honda Yamaha Kawasaki ฯลฯ รถชนิดนี้เบามาก ยิ่งแพงยิ่งเบา น้ำหนักประมาณ 100-107 kg. แต่กลับล้มง่ายมาก เพราะเบาะสูงปรี๊ดนั่นเอง ทำให้ฐานค้ำเราแคบ (รถโมโตครอสก็เช่นกัน สูงกว่ามาก แต่เขาไม่ค่อยล้มกันเพราะเน้นขี่แข่งด้วยการใช้ความเร็วตลอดแทรค รถจึงมีการพยุงตัวของมันอยู่ในตัวตลอดเวลา) บวกกับนักแข่งโมโตครอสจะมีทักษะที่ต่างจากคนทั่วไปมาก และมีความพร้อมทุกด้าน เรื่องเหล่านี้จึงไม่ใข่ปัญหาหลักของเขาเลย

    รถวิบากทั่วไป หรือที่เรียกว่ารถวิบาก Production เช่น CRF 250 300 450 / KLX 250 (รุ่นที่เบาะสูง ๆ ทั้งหลาย) น้ำหนักก็เพียงแค่ 130-140 kg. แต่ขี่กลับยูเทินบนทางดำเรียบๆให้เสียจังหวะยังล้มง่าย ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่รถเบากว่า H-D ถึงเกือบ 3 เท่า

    คราวนี้มาดูที่จักรยานปั่นหรือจักรยานประเภทกีฬากันบ้าง

    จักรยาน น้ำหนักเพียง 20-30 kg. แน่นอน รถเบา ๆ อย่างนี้ล้มยากแน่ ๆ “ผิดครับ” ถ้าเมื่อมาดูฝั่งจักรยานเสือหมอบ (จักรยานความเร็ว) น้ำหนักมีเพียงแค่ 10 กว่ากิโลเท่านั้นเอง เรียกว่ายิ่งเบายิ่งแพง ไล่เบากันกิโลละเป็นแสน รถประเภทนี้เอานิ้วมือยกนิ้วเดียวก็ยกขึ้นแล้วด้วยซ้ำ (คุยกันอย่างนั้นเลย) รถประเภทนี้ “เบาะสูงปรี๊ดดด” แต่กลับล้มง่าย “จริงมั๊ย?” เชื่อว่านักปั่นจักรยานประเภทนี้ เจอเหตุการณ์นี้กันมาแล้วทุกคน ถึงขั้นต้องฝึกปลดคลีทล๊อคเพื่อแลนดิ้งลงพื้นกันเลย (ใครๆก็ไม่อยากล้มเพราะรถมันแพง) นั่นเพราะว่า สูงจนเขย่ง ฐานค้ำเราจึงแคบมากนั่นเอง (คือเบาะสูงจนไม่สามารถถ่างขาออกเพื่อยันรถที่มีน้ำหนักเพียง 10 กว่ากิโลกรัม ได้ด้วยซ้ำ)

    ทั้งหมดนี้เราพูดถึงคือ รถทุกชนิดที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำถึงต่ำมาก ๆ (จะด้วยเพราะอะไรก็ตาม) เราต้องการการค้ำยันที่มั่นคงหากเกิดเหตุการณ์จำเป็นที่จะต้องเอาเท้าแลนดิ้งลงพื้นในเวลาฉุกเฉิน แต่ในเมื่อรถคันนั้นมีเบาะที่สูงเกินการค้ำยัน นั่นหมายความว่าท่านต้องนำเอา Skill Balance มาแลก “ยิ่งเบาะสูงมาก ยิ่งต้องแลกมาก” เรื่องแบบนี้ ใครไม่ตัวเล็กหรือขาสั้น จะไม่มีทางเข้าใจฟิลลิ่งนั้นเลย ไม่เชื่อ…คุณลองหาอะไรหนุนเบาะรองก้นให้สูงจนเท้าแตะพื้นไม่ถึง คุณจะขี่รถเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทันที “เพราะขาคุณจะสั่นนั่นเอง 555 ฝรั่งฝั่งยุโรปที่ตัวสูงๆ 185 cm.+ (สำหรับเขาไม่มีคำว่ารถ Big bike / แต่ถ้าเป็นรถฮอนด้าเวฟบ้านเรา เขาเรียก Minibike / ส่วน Minibike สำหรับเราคนเอเชีย ก็คือรถป๊อป 50 cc โน้นเลย 555) ทุกอย่างมันมีสัดส่วนของมัน อะไรที่เกินตัว เมื่อมีต้นทุนทางสรีระที่ต่างกัน ก็ต้องเอาความสามาถเข้ามาหักล้างกัน! นั่นเป็นเรื่องจริง!

    ฝากบทสนทนานี้ไว้

    ก า ร ห า ส ม ดุ ล ย์ ห รื อ B a l a n c e จึ ง ส ำ คั ญ

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถหรือเรื่องอะไรก็ตาม

  • หวยเกษียณ vs ประกันชีวิต อะไรคุ้มค่าต่อชีวิตหลังเกษียณ?

    หวยเกษียณ vs ประกันชีวิต อะไรคุ้มค่าต่อชีวิตหลังเกษียณ?

    ตอนนี้แดนอายุ 34 ปี ถ้าแดนซื้อหวยเกษียณเต็ม 3,000 บาท ทุกเดือน จนอายุ 60 ปี ถึงจะถอนได้ ถึงตอนนั้นแดนจะมีเงินที่ถอนได้ 936,000 บาท

    Screenshot

    สมมุติว่า เงินเฟ้อปีละ 2% เงินจำนวน 936,000 บาท และแดนคิดว่ามีอายุถึง 90 ปี แดนจะมีเงินเหลือใช้ปีละ 22,466.70 บาท/ปี หรือ 1,872.23 บาท/เดือน

    Screenshot

    คำถามคือ จะกินอยู่ไหวเหรอครับ?

    แต่ถ้าวันนี้แดนเอา 36,000 บาทจะซื้อหวยเกษียณ มาซื้อประกัน AIA Protection 65 ได้ทุนประกัน 360,000 บาท

    เมื่ออายุ 65 แดนได้เงินคืน 43,200 บาท
    อายุ 66-69 ได้เงินคืนปีละ 50,400 บาท
    อายุ 70-74 ได้เงินคืนปีละ 57,600 บาท
    อายุ 75-79 ได้เงินคืนปีละ 64,800 บาท
    อายุ 80-84 ได้เงินคืนปีละ 72,000 บาท
    อายุ 85-89 ได้เงินคืนปีละ 79,200 บาท
    อายุ 90-94 ได้เงินคืนปีละ 86,400 บาท
    อายุ 95-97 ได้เงินคืนปีละ 93,600 บาท
    แล้วอายุ 98 ก็ได้ทุนประกันคืน 360,000 บาท เป็นเงินก้อน

    เห็นแบบนี้แล้ว เพื่อน ๆ ยังอยากจะซื้อหวยเกษียณอยู่ไหม? ซื้อมีโอกาสถูก ไม่ซื้อไม่มีโอกาสถูก แต่ซื้อหวยเพื่อน ๆ รับความเสี่ยงที่จะไม่ถูกได้ไหม? ในเมื่อสิ่งที่แดนกำลังเสนอแผนมีโอกาสได้ 100% ถ้าเพื่อน ๆ เห็นด้วยติดต่อแดนครับ ให้แดนได้มีโอกาสช่วยวางแผนการเงินของเพื่อน ๆ แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่มั่นใจ กลัวว่าแดนจะดูแลไม่ดี เพื่อน ๆ จะเอาแผนนี้ไปทำกับตัวแทนที่เพื่อน ๆ มั่นใจแดนก็ไม่ว่าอะไร? เพราะแดนถือว่า อย่างน้อย ๆ แดนได้ช่วยเหลือเพื่อน ๆ ทุกคนที่เห็นโพสต์นี้แล้วที่จะหลุดพ้นความยากจนและก้าวสู่ความมีอิสระภาพทางการเงินและความมั่งคั่งไปพร้อม ๆ กันครับ

  • บัตรเครดิต KBank สามารถใช้งาน Google Pay ได้แล้ววันนี้

    บัตรเครดิต KBank สามารถใช้งาน Google Pay ได้แล้ววันนี้

    วันที่ 20 พ.ค. 2567 ธนาคารกสิกรไทย(KBank) ประกาศเชื่อมระบบบัตรเครดิตเข้า Google Pay แล้ว โดยลูกค้าธนาคารฯ สามารถกดเพิ่มบัตรเครดิตวีซ่าในแอปพลิเคชัน Google Wallet บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป และมีเทคโนโลยี NFC หลังจากนั้นสามารถแตะจ่ายได้ทุกร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Google Pay, Google Wallet หรือ Contactless ได้เลยครับ

    หมายเหตุ

    • ใช้ได้เฉพาะบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทย
    • ใช้ได้กับมือถือระบบปฏิบัติการ Android 7.0 ขึ้นไป และมีเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ทุกรุ่น
    • ต้องเปิดบัตรก่อนใช้งาน
    • การเพิ่มบัตรบน แอปพลิเคชัน Google Wallet ลูกค้าต้องเพิ่มบัตรบน K PLUS ก่อน หากไม่เพิ่มบัตรบน K PLUS จะไม่สามารถเพิ่มบัตรบน Google Wallet​ ได้​​
    • หากมีข้อสงสัยอื่นๆเกี่ยวกับการใช้งาน Google Pay ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ Google Wallet help center หรือแจ้งปัญหา/แสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางใน Google Wallet Application ได้เลยครับ

    ​ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม การทำธุรกรรมใช้จ่ายเหมือนการใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและบริการตามปกติ

    นอกจาบัตรเครดิต KBank ที่สามารถใช้งานบน Google Wallet ได้แล้ว ลูกค้าบัตรเครดิตวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดธนาคารกรุงเทพ และ บัตรกรุงไทย(KTC), ลูกค้าบัตรเครดิตวีซ่าธนาคารทหารไทยธนชาติ(TTB) ลูกค้าทรูมันนี่(True Money Wallet) ก็สามารถใช้งานได้แล้วเช่นกัน ส่วนบัตรเครดิต/เดบิต ธนาคารอื่น ๆ จะใช้งานบน Google Wallet ได้กี่โมง? Apple Pay จะมากี่โมง? ต้องคอยติดตามต่อไปครับ

    ที่มา : พบเจอด้วยตัวเอง, Google Wallet Support
  • [Review] Iconsiam กับที่จอดรถบิ๊กไบค์

    [Review] Iconsiam กับที่จอดรถบิ๊กไบค์

    เป็นที่โจษจันกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือที่เราเรียกกันว่า “บิ๊กไบค์” (Bigbike) ในการหาที่จอดรถตามห้างต่าง ๆ มาโดยตลอดนะครับ

    วันนี้ผมจะมาแนะนำที่จอดรถบิ๊กไบค์ในห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม (Iconsiam) ครับ เนื่องจากส่วนตัวผมขับ Honda CRF1100L Africa Twin ขนาดปริมาตรเครื่องยนต์ 1100 cc. อยู่ ทางห้างฯ จะแนะนำให้เข้าทางเข้าแรกนะครับ

    ทางเข้าที่หนึ่ง ของห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม - First entrance of Iconsiam department store.

    หลังจากนั้นให้ตรงไปเข้าจะมีที่จอดบิ๊กไบค์ขนาด 800 cc. ขึ้นไปอยู่ใต้ทางลาดเวียนขึ้น-ลง ที่จอดรถยนต์ครับ เพื่อน ๆ สามารถจอดตรงนั้นได้เลย โดยจะมีพี่ ๆ รปภ. คอยยืนอยู่ ณ บริเวณนั้นครับ

    Iconsiam's bigbike parking 800 cc.

    หากเพื่อน ๆ มีคำแนะนำตรงไหน สามารถบอกได้เพิ่มเติมที่เฟสบุ๊กเพจของเราได้เลยนะครับ

    สำหรับวันนี้ไปแล้วครับ ขับขี่ปลอดภัยกันด้วยนะครับ

  • รับมอบ Honda CRF1100L Africa Twin

    รับมอบ Honda CRF1100L Africa Twin

    หลังจากที่จองรถในงาน Thailand Motor Expo 2023 วันที่ 6 ธันวาคม 2566 วันนี้ (วันที่ 16 ธันวาคม 2566) รับรถแล้วครับ ต้องขอบคุณเซลล์ต้อง จากฮอนด้า บิ๊กวิง ธนบุรี และทีมงานที่ช่วยดันจนเรื่องผ่านครับ

    Honda CRF1100L Africa Twin and me

    ทำไมถึงเลือก Honda CRF1100L Africa Twin?

    Honda CRF1100L Africa Twin ต่อไปนี้จะเรียกว่า Africa Twin นะครับ คือ รถที่ออกแบบมาสไตล์ Touring Adventure ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเคยขี่ CBR250R และ CBR500R ซึ่งหลัง ๆ มานี้ก็รู้สึกแก่ขึ้น ไม่ได้ต้องการความแรงเหมือนดั่งเมื่อก่อน ประกอบในยุคโควิด-19 ที่เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ก็เลยเริ่มคิดได้ว่า เราชอบที่จะขี่รถออกไปเที่ยว และอยากจะทำงานที่ไหนก็ได้หรือ Digital Nomad ซึ่ง Africa Twin สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ในราคาที่เป็นมิตร ค่าบำรุงรักษาไม่แรงจนเกินไปเหมือนดั่งคู่แข่งจากเยอรมัน ประกอบกับ Honda Africa Twin มีภาษีที่ดีกว่าตรงซ่อมบำรุงง่าย ซึ่ง Honda เองมีประสบการณ์จากการผ่านการแข่งขันที่ทรมาณทรกรรมนักแข่งและตัวรถรายการ Dakar Rally หรือที่คนไทยเคยรู้จักในนาม Paris -Dakar นั่นเอง ซึ่งเคยมีนักแข่งชาวไทย 2 คน ที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้จนจบ ได้แก่ พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ในปี ค.ศ. 1992-1995 และมานะ พรศิริเชิด ในปี ค.ศ. 2009 แต่เป็นรายการรถยนต์นะ นั่นแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์อันนำมาสู่ความมั่นใจในแบรนด์ฮอนด้าของผมครับ

    https://www.youtube.com/watch?v=1QuuxBAu2zw

    หากใครสนใจบิ๊กไบค์สามารถติดต่อเซลล์ต้องแห่ง Honda BigWing Thonburi ได้ที่เบอร์ 080 397 2296

  • I’m back you bastards

    ผมกลับมาแล้ว เตรียมตัวเห็นดีกันได้เลย หลังจากห่างหายกันไปนาน กลับมาครั้งนี้ผมมีอะไรหลายๆ อย่างเช่น ข่าวสาร รีวิวสไตล์จัดหนัก จัดเต็ม ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมครับ

  • Quote from Richard Branson

    The best way of learning about anything is by doing. -Richard Branson.

  • เกมเมอร์อึ้ง! Battle Realms กลับมาแล้ว… ลั่นขายปีหน้าแน่นอน!

    เกมเมอร์อึ้ง! Battle Realms กลับมาแล้ว… ลั่นขายปีหน้าแน่นอน!

    เป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ Liquid Entertainment ได้ปล่อยคลิปวีดีโอสั้นๆ (ตัวคลิปอยู่หลังเบรค) ของเกม Real-time strategy (RTS) หรือเกมแนววางแผนสุดฮิตในตำนานปี 2001 ที่จะเป็นภาคต่อจากภาคแรกที่อยู่ๆ ก็หยุดพัฒนาไปเนื่องจากขาดทุนทรัพย์ในการพัฒนาต่อ จนทางผู้ผลิตต้องหันไปพัฒนาเกมให้บริษัทอื่นๆ จนเงียบหายไปซึ่งนั่นก็คือ Battle Realms นั่นเอง (more…)